1. ไม่ชอบของแพง
ขอให้เริ่มตอบว่า “คุณคิดว่าแพงใช่ไหมครับ ตอนแรกผมคิดว่ามันโครตแพงเลย…”
และคุณก็ชี้ให้ผู้มุ่งหวังเห็นว่าจริงแล้วๆมันไม่ได้มีแค่ “ของแพง” กับ “ของถูก” มันยังมีเรื่อง “ราคาสูง” กับ “ราคาต่ำ” ซึ่งปลาหมึกเต่าทองเป็นตัวอย่างในการตอบข้อโต้แย้งข้อนี้
คุณจะเห็นว่าปลาหมึก 28 กรัม ราคา 30 บาท แสดงว่าคุณกำลังกินปลาหมึก กิโลกรัมละกว่า 1,000 บาท ปลาหมึกเต่าทองเป็นสินค้าที่ “ราคาต่ำ” ส่วนแพงหรือไม่คงอยู่ที่คุณ
ฉะนั้นสินค้าจะแพงหรือไม่แพง คงต้องดูกันที่คุณภาพคุ้มราคาหรือเปล่า สมมติผงซักฟอกยี่ห้อตามท้องตลาด ราคา 100 บาท ซักได้ 20 ครั้ง หรือเฉลี่ยครั้งละ 5 บาท
แต่ถ้าผงซักฟอกยี่ห้อของธุรกิจ MLM 600 บาท ซักได้ 150 ครั้ง หรือเฉลี่ยครั้งละ 4 บาท สินค้าจาก MLM ย่อมถูกว่าจากท้องตลาด
แถมธุรกิจ MLM ก็ยุติธรรมมาก ถ้าใช้สินค้าไม่ถึงครึ่ง แล้วไม่พอใจ ก็คืนได้อีกต่างหาก
2. ไม่ว่างไม่มีเวลา
หากผู้มุ่งหวังตอบว่าไม่ว่างไม่มีเวลา ส่วนใหญ่มักจะตอบเลี่ยงๆ เพราะไม่อยากทำธุรกิจ MLM
คุณต้องชี้ให้ผู้มุ่งหวังเห็นคุณค่าของการแบ่งเวลามาสร้างชีวิต เพราะในชีวิตคนเรามี 24 ชม. เท่ากัน ถ้าเราใช้เวลาทำงานหรือเรียนวันละ 8 ชม. พักผ่อนและนอนหลับ 12 ชม.
เราก็ยังมีเวลาเหลืออีก 4 ชม. การใช้เวลา 4 ชม. ที่เหลือ เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าใครจะประสบความสำเร็จในชีวิต บางคนใช้เวลาไปกับการเที่ยวเล่น บางคนใช้ศึกษาพัฒนาตัวเอง บางคนใช้หารายได้พิเศษเป็นรายชั่วโมง บางคนใช้ทำธุรกิจส่วนตัว
คุณก็บอกผู้มุ่งหวังว่า “ขอให้คุณลองแบ่งเวลา 4 ชม. ที่เหลือมาทำธุรกิจ MLM แล้วถ้าคุณไม่ชอบจริงๆค่อยเลิกก็ยังไม่สาย คุณจะได้ไม่เสียโอกาสมีธุรกิจเป็นของตัวเองด้วย”
3. ไม่ชอบงานขาย
ผู้มุ่งหวังมักจะกังวลว่าเค้าจะต้องหิ้วตะกร้าสินค้า ไปเคาะประตูบ้านเหมือนการขายตรงทั่วไป
คุณต้องชี้ให้เห็นว่ามันเป็นการสร้างเครือข่ายผู้บริโภค ไม่ใช่การขายเหมือนประกันชีวิต
ขอให้คุณบอกผู้มุ่งหวังว่า “จริงๆแล้วการสร้างธุรกิจ MLM มีอยู่ 2 แนวทาง แนวทางแรกคือขาย แนวทางที่สองคือซื้อ ถ้าคุณไม่ชอบขาย คุณก็ไม่จำเป็นต้องขาย ไม่เป็นไร เพราะผมก็ไม่ชอบขายสินค้าเหมือนกัน ผมแอนตี้ด้วยซ้ำ การสร้างธุรกิจ MLM คุณแค่ลองซื้อใช้สินค้า แล้วคุณก็ทำการตลาดโดยการบอกต่อ กับสินค้าที่คุณใช้แล้วชอบ แค่นั้นก็สร้างธุรกิจได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องขายเลย”
4. ไม่รู้จะไปขายใคร
ผู้มุ่งหวังมักจะคิดว่าการสร้างธุรกิจ MLM จะเป็นการไป “เอา” แทนที่จะ “ให้” หรือไป “รบกวน” แทนที่จะ “ช่วยเหลือ”
คุณจึงต้องชี้ให้เห็นว่าการสร้างธุรกิจ MLM จะเป็นการที่คุณมอบสิ่งดีๆ “ให้” กับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้คนรอบตัวของผู้มุ่งหวัง
ขอให้คุณตอบผู้มุ่งหวังว่า “คุณลองคิดถึงคนที่ต้องการรายได้เพิ่ม แต่ยังไม่รู้ทำอย่างไร ถ้าคุณได้แนะนำธุรกิจ MLM แล้วทำให้เค้ามีรายได้เพิ่ม ก็เป็นการดีกับตัวเค้าเอง แล้วมันก็เกิดจากการที่เราก็มอบสิ่งดีๆให้กับเค้า”
หรือถ้าตอบในแง่ของสินค้า “มันจะดีแค่ไหน ถ้าเกิดว่าเรานำอาหารเสริมคุณภาพสูงไปแนะนำให้คนที่ไม่ค่อยแข็งแรงใช้ แล้วเค้าแข็งแรงขึ้น เค้าก็คงอยากจะขอบคุณเราแน่เลย”
5. พูดไม่เก่ง
ผู้มุ่งหวังที่มีข้อโต้แย้งนี้ มักจะไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเอง
คุณจึงต้องชี้ให้เค้าเห็นว่า แม้เค้าจะพูดไม่เก่งก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการสร้างธุรกิจแม้แต่น้อย เพราะธุรกิจนี้ไม่ได้ต้องการคน “พูดเก่ง” แต่ต้องการคน “พูดเป็น”
เพราะคนพูดเก่งไม่ได้แปลว่า รู้ในสิ่งที่พูด อาจจะแค่พูดไปเรื่อยๆก็ได้ ซึ่งในธุรกิจ MLM เค้าต้อง “ฟังเก่ง” ก่อน และร่วมการฝึกอบรมให้ผู้ร่วมธุรกิจ “พูดเป็น” มีข้อมูล และข้อเท็จจริง ที่จะใช้นำเสนอให้ผู้อื่นฟัง ไม่มั่ว
เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงที่เค้าพูดไม่เก่ง ขอแค่ตั้งใจจริงเค้าก็สามารถสร้างธุรกิจได้