บริษัท Giffarine หลอกลวงหรือไม่ เจาะลึกแผนการตลาด จุดเด่น และสินค้าของบริษัท กิฟฟารีน ที่นี่
เกริ่นนำ
หากเราสนใจที่จะทำธุรกิจเครือข่าย เราจำเป็นต้องเลือกบริษัทผู้ผลิตสินค้า ที่จะมาเป็น Partner ของเรา เพื่อที่จะสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
ปัจจัยหลักในการเลือก Partner เบื้องต้นมี 3 ข้อ คือ
- ข้อมูลเบื้องต้นของตัวบริษัท: ความมั่นคงของตัวบริษัท และการจัดตั้งขึ้นถูกกฎหมาย เพราะเราคงไม่อยากตื่นขึ้นมา แล้วพบว่าบริษัทเลิกกิจการ หรือกลายเป็นแชร์ลูกโซ่
- แผนการจ่ายค่าตอบแทนของบริษัท: เพราะแผนการตลาดของบริษัท จะนำไปสู่รายได้ของธุรกิจเรา เราจำเป็นต้องรู้ว่า บริษัทจ่ายค่าการตลาดให้กับสมาชิก อย่างไร
- สินค้าของบริษัท: เราต้องรู้จักสินค้าของบริษัท และชอบสินค้าของบริษัท เพื่อให้ง่ายแก่การไปแนะนำต่อ เพื่อสร้างเครือข่ายผู้บริโภค โดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ
วันนี้บริษัทที่เราจะ Review คือ Giffarine โดยเราจะมาดูปัจจัยหลัก 3 ข้อ
และพิจารณาจุดเด่นอื่นๆของกิฟฟารีน ที่เราจะนำมาใช้ตัดสินใจร่วมธุรกิจกับ Partner รายนี้
รู้จักกับบริษัท กิฟฟารีน
- กิฟฟารีน ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทย เมื่อปี 2539 หรือกว่า 15 ปี ที่ใช้แผนธุรกิจแบบ MLM
- ในปี 2554 กิฟฟารีนมียอดขายประมาณ 5,300 ล้านบาท (อ้างอิงจากหนังสือ Leader Time ฉบับ 134 เดือนมกราคม 2555)
- ได้รับการรับรองจาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
- เข้าร่วมธุรกิจได้ด้วยการสมัครสมาชิกครั้งเดียว 180 บาท ตลอดชีพ
- เมื่อเป็นสมาชิก จะสามารถซื้อสินค้าได้ ในราคาสมาชิก ซึ่งลด 25% จากราคาปกติ
แผนการตลาดของ Giffarine
[leadplayer_vid id=”50731A427855F”]
กิฟฟารีน ใช้แผนการจ่ายค่าตอบแทนแบบ Stair Step – Break Away นั่นคือ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องจำนวน Frontline ที่ติดตัว
กิฟฟารีนคำนวณค่าตอบแทนเป็นรายเดือน มีการตัดยอดแต่ละเดือน ทุกวันสิ้นเดือน และมีการจ่ายค่าตอบแทนสุทธิจากภาษีเงินได้ (กิฟฟารีนชำระภาษีเงินได้จากโบนัสให้กับสมาชิกทุนคน) ทุกวันที่ 13 ของเดือนถัดไป
แผนการตลาดของกิฟฟารีน กำหนดให้ตำแหน่งในธุรกิจ ขึ้นแล้วไม่มีการลดตำแหน่ง ไม่มีการผลักภาระไปให้กับ Downline (DL) และแต้มของยอดธุรกิจกิฟฟารีน 1PV = 1 บาท
โดยรายได้จากแผนการตลาดของ Giffarine มี 7 ทาง คือ
- การขายปลีกสินค้า: เราจะได้รับส่วนต่าง 25% จากการที่เราซื้อสินค้าในราคาสมาชิก และนำไปขาย ในราคาปกติ (รายได้นี้เป็น Active Income ข้อเดียว)
- โบนัสแตกต่าง 10-25%: เราจะได้รับโบนัสแตกต่าง ในกรณีที่เราอยู่ในระดับโบนัสแตกต่างที่สูงกว่า DL ของเรา
ยอดธุรกิจ (PV)
ส่วนลด
1,500
10%
9,000
15%
45,000
25%
เช่น ถ้าเรามีระดับโบนัสแตกต่างอยู่ที่ 25% ส่วน DL ของเรา ชื่อ นาย A มีระดับโบนัสแตกต่างอยู่ที่ 10% เราก็จะได้รับโบนัสแตกต่าง 15% จากยอดซื้อของ นาย A โดยกิฟฟารีนจะเรียกคนที่มีระดับโบนัสแตกต่างอยู่ที่ 25% ว่า Goldstar (GS)
- โบนัสทีม Goldstar ลูก 4-10%: เมื่อเราช่วยให้ DL ของเราเป็น GS (ซึ่งเราเรียกว่าการ Break Away) เราจะได้รับ “โบนัสทีม Goldstar ลูก 4-10%” จากยอดธุรกิจของ DL และเราจะไม่นำยอดธุรกิจของ DL มานับรวมกับยอดธุรกิจของเราในการคำนวณ “โบนัสแตกต่าง 10-25%” เช่น ถ้าเรามียอดธุรกิจ 60,000 PV แต่เรามียอดธุรกิจจากนาย B 45,000 PV เราจะได้รับ ส่วนลดผู้นำ 4-10% จาก 45,000 PV และเรามียอดธุรกิจส่วนที่เหลือ 15,000 PV เราก็จะนำไปคำนวณ “โบนัสแตกต่าง 10-25%” ต่อไป
- โบนัสทีม Goldstar หลาน 2-6%: เมื่อเราช่วยให้ DL ของเราที่เป็น GS คนใดคนหนึ่ง ช่วยให้ DL ของเค้า (ซึ่งเป็น DL ชั้นหลานของเรา) เป็น GS เราจะได้รับ “โบนัสทีม Goldstar หลาน 2-6%” จากยอดธุรกิจของ DL ชั้นหลาน และเราจะไม่นำยอดธุรกิจของ DL ชั้นหลาน มานับรวมกับยอดธุรกิจของ DL ชั้นลูกในการคำนวณ “โบนัสทีม Goldstar ลูก 4-10%” เช่น ถ้า DL ของเราที่เป็น GS มียอดธุรกิจ 80,000 PV แต่ DL ชั้นหลานของเราที่เป็น GS มียอด 45,000 PV เราจะได้รับ โบนัสทีม Goldstar หลาน 2-6% จาก 45,000 PV และยอดธุรกิจส่วนที่เหลือของ DL ของเรา 35,000 PV เราก็จะนำไปคำนวณ “โบนัสทีม Goldstar ลูก 4-10%” ต่อไป
- โบนัสทีม Paradise ลูก 0.50-1%: เมื่อเราช่วย DL ชั้นลูกของเราเป็น GS ได้ 20 คน เราจะได้เลื่อนเป็นตำแหน่ง Paradise (PD) ซึ่งเราจะได้รับ “โบนัสทีม Paradise ลูก 0.50-1%” ของยอดธุรกิจทั้งหมดของเรา (แต่ไม่รวมยอดธุรกิจของ DL ของเราที่อยู่ตำแหน่ง PD)
- โบนัสทีม Paradise หลาน 0.25-0.50%: เมื่อเราช่วย DL ของเราเป็น PD เราจะได้รับ “โบนัสทีม Paradise หลาน 0.25-0.50%” ของยอดธุรกิจทั้งหมดของ DL ของเราที่เป็น PD (แต่ไม่รวมยอดธุรกิจของ DL ชั้นหลานของเราที่อยู่ตำแหน่ง PD)
- รายได้อื่น: เงินโบนัสแต้มสะสมประจำเดือน โบนัสประจำตำแหน่ง 3,000-60,000 บาท และเงินเดือนประจำตำแหน่ง 5,000-100,000 บาท เมื่อเรามีตำแหน่ง PD ขึ้นไป
สินค้าเด่นของ Giffarine
กิฟฟารีนมีสินค้าสำคัญ 4 ประเภทใหญ่ๆ คือ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว House & Body Care และสินค้าประเภทอื่นๆ
- อาหารเสริม: มิลค์แคลซีน (Milkcalcine) น้ำทับทิม และ ผลิตภัณฑ์บำรุงสายตา LzVit
- ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว: Repairy Treatment และชุดเครื่องสำอางค์ Crystaline
- House & Body Care: ยาสีฟัน Bio Herbal น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ และผงซักฟอก Bright
- สินค้าประเภทอื่นๆ: อาหาร และเครื่องดื่ม
จุดเด่นของ กิฟฟารีน
[leadplayer_vid id=”50731C9DDB339″]
- บริษัทมีประวัติยาวนาน มีความน่าเชื่อถือสูง
- สินค้ามีหลายกลุ่ม และราคาไม่แพง บริษัทมีโรงงานของตัวเอง สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าได้ดี
- เป็นบริษัทเดียวที่จ่ายภาษีเงินได้จากเงินโบนัสให้กับสมาชิก
- การขึ้นตำแหน่งในธุรกิจ ขึ้นแล้วไม่มีการลดตำแหน่ง ไม่มีการผลักภาระไปให้กับ DL
- เริ่มต้นธุรกิจได้ง่าย และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคได้ไม่ยาก เพราะสินค้าราคาไม่สูง
กิฟฟารีน – สรุป
Giffarine ถึงพร้อมในปัจจัย 3 ข้อ ที่เราใช้เลือก Partner
สำหรับปัจจัยแรกนั้น แน่นอนว่าบริษัท ที่ในอุตสาหกรรมกว่า 15 ปี มีโรงงานเป็นของตัวเอง มีความมั่นคง คงไม่ทุบหม้อข้าวตัวเอง เปลี่ยนจากธุรกิจเครือข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่แน่นอน
ในเรื่องแผนการตลาด ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนทั้งแบบ Stair Step – Break Away ในข้อ 2-4 และผลตอบแทนแบบ Uni-Level ในข้อ 5-6 แถมยังจ่ายภาษีให้กับสมาชิกอีกต่างหาก
ส่วนสินค้าของบริษัทก็ชัดเจนในตัว มิลค์แคลซีน ที่เราเคยเห็นในโฆษณา เมื่อหลายปีก่อนว่าทำให้เด็กสูง ก็ไม่ทำให้ผู้บริโภคผิดหวัง ยังไม่นับรวมสินค้าคุณภาพอื่นๆอีกมากมาย