บริษัท Minery Gold หลอกลวงหรือไม่ เจาะลึกแผนการตลาด จุดเด่น และสินค้าของบริษัท มินเนอร์รี่ โกลด์ ที่นี่
เกริ่นนำ
ในการเริ่มต้นทำธุรกิจเครือข่าย เจ้าของสินค้า ที่เราจะเลือกเป็น Partner มีส่วนสำคัญ ที่จะช่วยให้เราสร้างธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จ
โดยปัจจัยที่ใช้เลือก Partner มี 3 ข้อ คือ
- บริษัท: ความมั่นคง การจัดตั้ง อย่างถูกกฎหมาย เป็นสิ่งที่เราต้องคำนึงถึง ถ้าบริษัทล้มละลาย ธุรกิจของเราก็ล้มไปด้วย หรือถ้าบริษัท ไม่ได้ทำธุรกิจถูกกฎหมาย แต่เป็นแชร์ลูกโซ่ เราก็อาจจะซวยโดนหางเลขไปด้วย
- แผนการจ่ายค่าตอบแทน: แผนการจ่ายค่าตอบแทนของบริษัท เป็นสิ่งที่บ่งชี้ความเป็นไปของธุรกิจเรา เราจึงต้องรู้ว่า บริษัทมีวิธีการจ่ายค่าตอบแทน ให้กับนักธุรกิจ อย่างไร จ่ายอย่างเป็นธรรมหรือไม่
- สินค้า: ถ้าสินค้าของบริษัท มีคุณภาพสูง และเป็นที่ยอมรับของตลาด มันก็ง่าย ต่อการแนะนำต่อ ให้กับกลุ่มผู้บริโภค และสร้างรายได้ให้กับ ธุรกิจของเรา
วันนี้บริษัทที่เราจะ Review คือ Minery Gold โดยเราจะมาดูปัจจัยทั้ง 3 ข้อ
และค้นหาจุดเด่นอื่นๆของ มินเนอร์รี่ โกลด์ ที่เราจะใช้ ประกอบการตัดสินใจ ทำธุรกิจกับ Partner รายนี้
รู้จักกับบริษัท มินเนอร์รี่ โกลด์
- มินเนอร์รี่ โกลด์ ก่อตั้งขึ้น ตั้งแต่ปี 2553 ในประเทศไทย โดยตระกูลปราสาททองโอสถ เจ้าของโรงพยาบาลกรุงเทพ
- ได้รับการรับรองจาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
- เริ่มธุรกิจด้วยการสมัครสมาชิก โดยค่าสมาชิกแรกเข้า 500 บาท และต่ออายุสมาชิก ปีละ 250 บาท
- สมาชิก จะซื้อสินค้าได้ ในราคาพิเศษ โดยจะลด 20% จากราคาเต็ม
แผนการตลาดของ Minery Gold
[leadplayer_vid id=”5075C81F34A4B”]
มินเนอร์รี่ โกลด์ ใช้แผนการตลาดแบบ Binary – Matching นั่นคือ บังคับให้เรามี Frontline (FL) ติดตัวได้ 2 คนเท่านั้น
แต่เมื่อเรา sponsor ได้เพิ่ม จะต้องนำไปต่อให้กับ Downline (DL) ของเรา เรียกว่าการ Placement
โดยทั่วไป เราจะเรียก ยอดธุรกิจรวมของ FL ฝั่งที่ยอดน้อยว่า “ทีมอ่อน” ส่วนฝั่งที่ยอดเยอะว่า “ทีมแข็ง”
มินเนอร์รี่ โกลด์คำนวณค่าตอบแทนเป็นรายสัปดาห์ มีการตัดยอดแต่ละสัปดาห์ ทุกวันอาทิตย์ และมีการจ่ายค่าตอบแทน ในอีก 2 ศุกร์ถัดไป
ยอดธุรกิจของมินเนอร์รี่ โกลด์ มีการคำนวณเป็นแต้ม เรียกว่า BV โดย 1 BV ประมาณ 3-5 บาท
เงื่อนไขในการรับโบนัสจากมินเนอร์รี่ โกลด์ มี 3 ข้อ ดังนี้
- สมัครเป็นสมาชิก แรกเข้า 500 บาท และต่ออายุ รายปี ปีละ 250 บาท
- เปลี่ยนสถานะจาก สมาชิกเป็นนักธุรกิจตำแหน่ง Leader ด้วยการซื้อสินค้า 500 BV ในเดือนที่ขึ้นตำแหน่ง
- รักษายอดส่วนตัวตั้งแต่ 200-2,000 BV ต่อ 4 สัปดาห์ ตามตำแหน่ง
- กำไรจากการขายปลีก 20% (Retail Benefit 20%): เราจะได้รับส่วนต่าง 20% จากการที่เราซื้อสินค้าในราคาพิเศษ และนำไปขายในราคาปกติ
- โบนัสสาขา 20% (Branch Bonus 20%): เราจะได้รับ “โบนัสสาขา 20%” ของยอดส่วนตัวของ DL ที่เรา sponsor ด้วยตัวเอง 1,000 BV แรก
- โบนัสส่วนบุคคล 20% (Personal Bonus 20%): เราจะได้รับเงินคืน (Cash Back) 20% ของยอดส่วนตัวของเรา ที่เกินกว่า 1,000 BV โดยแผนข้อนี้ ต้องการให้เรา ไม่ยัดเยียดให้ DL ซื้อสินค้ามากๆ หรือกักตุนสินค้า เพราะว่า หาก DL ของเราคนใดคนหนึ่ง ซื้อสินค้าเกิน 1,000 BV เราจะไม่ได้รับโบนัสเพิ่มเติม
- โบนัสทีมอ่อน 10-20% (Weak Team Bonus 10-20%): เราจะได้รับ “โบนัสทีมอ่อน 10-20%” โดยคำนวณจากยอด “ทีมอ่อน” เช่น ถ้ายอด “ทีมอ่อน” มี 20,000 BV เราก็จะได้รับ สูงสุด 20,000 x 20% = 4,000 บาท
- โบนัสทีมแข็ง 10% (Strong Team Bonus 10%): เราจะได้รับโบนัส 10-13% โดยคำนวณจากยอด Balance ของ “ทีมแข็ง” เช่น ถ้ายอด “ทีมแข็ง” มี 40,000 BV และยอด “ทีมอ่อน” มี 20,000 BV ซึ่งในกรณีนี้ ยอด Balance คือ ยอดที่เท่ากับยอด “ทีมอ่อน” นั่นคือ 20,000 BV เราก็จะได้รับ สูงสุด 20,000 x 12% = 2,400 บาท
- โบนัสโกลด์ แมชชิ่ง 5-10% (Gold Matching Bonus 5-10%): เราจะได้รับ “โบนัสโกลด์ แมชชิ่ง 5-10%” ของ “โบนัสทีมอ่อน 10-20%” บวกกับ “โบนัสทีมแข็ง 10%” ของ DL ที่เรา sponsor ด้วยตัวเอง ลึกสูงสุด 6 ชั้น โดยเราจะต้องรักษายอดส่วนตัวอย่างน้อย 300 BV ต่อ 4 สัปดาห์
- โบนัสโกลด์ แมชชิ่ง อินฟินิตี้ 10% (Gold Matching Infinity Bonus 5%): เราจะได้รับ “โบนัสโกลด์ แมชชิ่ง อินฟินิตี้ 10%” ของ “โบนัสทีมอ่อน 10-20%” บวกกับ “โบนัสทีมแข็ง 10%” ของ DL ที่เรา sponsor ด้วยตัวเอง ตั้งแต่ชั้นที่ 7 เป็นต้นไป นับจนถึง DL คนที่มีตำแหน่งเท่ากัน หรือสูงกว่าเรา โดยเราจะต้องรักษายอดส่วนตัวอย่างน้อย 300 BV ต่อ 4 สัปดาห์
- โบนัสยอดขายทั่วประเทศ 0.5% (All Sale Bonus 0.5%): เราจะได้รับ “โบนัสยอดขายทั่วประเทศ 0.5%” โดยคำนวณจากยอดธุรกิจทั้งหมดของบริษัทในรอบ 4 สัปดาห์ และนำมาแบ่งตามสัดส่วนให้กับผู้ที่มีคุณสมบัติเดียวกัน
- กองทุนผู้บริหาร 1% (Executive Fund 1%): เมื่อเรามียอดธุรกิจ “ทีมอ่อน” เกิน 300,000 BV ต่อสัปดาห์ เราจะได้รับ “กองทุนผู้บริหาร 1%” โดยคำนวณจากยอดธุรกิจทั้งหมดของบริษัทในรอบ 1 สัปดาห์ และนำมาแบ่งเท่ากันกับผู้ที่มีคุณสมบัติเดียวกัน
- โบนัส บิงโก (Bingo Bonus): ทุกครั้งที่เราสร้างยอดธุรกิจ “ทีมอ่อน” และ “ทีมแข็ง” ข้างละ 3,000,000 BV ขึ้นไป เราจะได้รับ “โบนัส บิงโก” 100,000-200,000 บาท
สินค้าเด่นของ Minery Gold
Minery Gold มีสินค้า 4 กลุ่ม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว, ผลิตภัณฑ์ใช้ในครัวเรือน, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
- ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว: Cellular Radiance Serum, Q103 Brightening Cleansing Mousse, Perfectionist Cream, Molecular Natural Mineral Water, Q103 Refining Skin Toner, Age Killing Cream และ Total Block SPF50
- ผลิตภัณฑ์ใช้ในครัวเรือน: กาแฟ Gold Slim และ iClean
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร: LMS BLOKK, LMS BURNN, Thirty Up, Coenzyme Q10, Rizeoil, Lutein Plus, Avata Formula 1 และ Avata Formula 2
- ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร: ยาดิน
จุดเด่นของ มินเนอร์รี่ โกลด์
[leadplayer_vid id=”5075C93130C0F”]
- เป็นบริษัทที่ความมั่นคง ก่อตั้งโดยสมาชิกในตระกูลดัง เจ้าของโรงพยาบาลกรุงเทพ
- มีโรงงานผลิตสินค้าของตัวเอง
- สินค้ามีการควบคุมคุณภาพอย่างดี โดยแพทย์และเภสัชกร
- สามารถสั่งซื้อสินค้าทาง Website ของบริษัทได้
- แผนการตลาดมีรายได้ หลายช่องทาง
มินเนอร์รี่ โกลด์ – สรุป
Minery Gold สอบผ่านในแง่ของปัจจัยทั้ง 3 ข้อที่เราใช้เลือก Partner โดย
ปัจจัยแรก คือ ตัวบริษัทที่มีความมั่นคง มีโรงงานผลิตของตัวเอง เป็นธุรกิจของตระกูลปราสาททองโอสถ
เมื่อดูปัจจัยที่ 2 คือ แผนการตลาดของมินเนอร์รี่ โกลด์ ก็มีการจ่ายโบนัสหลากหลายช่องทาง
และปัจจัยที่ 3 คือ สินค้าก็มีคุณภาพสูง ควบคุมการผลิตโดยแพทย์และเภสัชกร จึงไม่มีปัญหาถ้าเราจะสร้างธุรกิจกับ Partner รายนี้