บริษัท Unicity Thailand หลอกลวงหรือไม่ เจาะลึกแผนการตลาด จุดเด่น และสินค้าของบริษัท ยูนิซิตี้ ที่นี่
เกริ่นนำ
เมื่อเราสนใจ ที่จะทำ ธุรกิจเครือข่าย เราต้องเริ่ม จากการค้นหา บริษัทผู้ผลิตสินค้า ที่จะมาเป็น Partner ของเรา ที่จะช่วยเรา ให้สร้างธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จ
หลักการเลือก Partner เบื้องต้นมี 3 ข้อ คือ
- ตัวบริษัท: บริษัทมั่นคง และถูกจัดตั้งขึ้น อย่างถูกกฎหมาย มันคงจะ ไม่ดีแน่ หาก Partner ที่เราเลือก เลิกกิจการ หรือแท้จริง เป็นแชร์ลูกโซ่
- แผนการตลาดของบริษัท: แผนการตลาด ของบริษัท เป็นที่มา ของรายได้ธุรกิจของเรา เมื่อเราจะสร้างธุรกิจ เราก็จำเป็น ต้องรู้ว่า บริษัทจะจ่าย ค่าการตลาด ให้เรา อย่างไร
- สินค้าของบริษัท: สินค้าของบริษัท เป็นแหล่งที่มา ของยอดธุรกิจของเรา ถ้าสินค้า มีคุณภาพดี การบอกต่อ ก็ง่าย การสร้างเครือข่ายผู้บริโภค ก็ไม่มีปัญหา
วันนี้ บริษัทที่เราจะ Review คือ Unicity Thailand โดยเราจะมาดู ปัจจัยหลัก 3 ข้อ
และวิเคราะห์ เพื่อหา จุดเด่นอื่นๆ ของยูนิซิตี้ ที่เราจะใช้ ประกอบ การตัดสินใจ ร่วมธุรกิจกับ Partner รายนี้
รู้จักกับบริษัท ยูนิซิตี้
- ยูนิซิตี้ เริ่มต้นธุรกิจ ภายใต้ โครงสร้างปัจจุบัน ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 2544 เริ่มต้นธุรกิจ ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2545
- ได้รับการรับรองจาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
- ร่วมธุรกิจได้ ด้วยการสมัครสมาชิก 500 บาท
- สมาชิก สามารถซื้อสินค้าของยูนิซิตี้ได้ ในราคาพิเศษ โดยมีส่วนลด 25 %
แผนการตลาดของ Unicity Thailand
[leadplayer_vid id=”50881A3142A6F”]
ยูนิซิตี้ ใช้แผนธุรกิจแบบ Unilevel นั่นคือ ไม่บังคับจำนวน Frontline (FL) ที่ติดตัวเรา
ยอดธุรกิจ ของยูนิซิตี้ คิดเป็นแต้ม เรียกว่า PV โดย 1 PV ประมาณ 50-55 บาท
ยูนิซิตี้มีการคำนวณโบนัส ให้กับเรา เป็นรายเดือน มีการตัดยอด ทุกวันสิ้นเดือน
เงื่อนไข ในการรับรายได้ จากยูนิซิตี้มี 3 ข้อ คือ
- สมัครสมาชิก 500 บาท
- เปลี่ยนสถานะจาก สมาชิก เป็นนักธุรกิจ ด้วยการ ซื้อใช้สินค้า 500 PV หรือประมาณ 25,000 บาท เพียงครั้งเดียว ภายใน เดือนใด เดือนหนึ่ง
- รักษายอดส่วนตัว เดือนละ 100 PV หรือประมาณ 5,000 บาท
- กำไรขายปลีกผลิตภัณฑ์ 25 %: เราจะได้รับส่วนต่าง 25 % จากการที่ เราซื้อสินค้า ในราคาสมาชิก และนำไปขาย ในราคาปกติ
- รายได้จากส่วนลดพิเศษ 5-10 %: เราจะได้รับ เงินคืน (Cash Back) ในรูปของ “รายได้จากส่วนลดพิเศษ 5-10 %:” โดยได้รับ 5 % ของยอดส่วนตัวของเรา ตั้งแต่ 101-250 PV และได้รับ 10% ของยอดส่วนตัวของเรา ตั้งแต่ 250 PV ขึ้นไป
- รายได้จากการแนะนำธุรกิจ 20-30 %: เราจะได้รับ “รายได้จากการแนะนำธุรกิจ 20-30 %” ของยอดส่วนตัวของ Downline (DL) ที่เรา sponsor ด้วยตัวเอง คำนวณจาก 500 PV แรก ที่ DL เราเปลี่ยนสถานะ จากสมาชิก เป็นนักธุรกิจ โดยที่คนแรกเราจะได้ 20 % ของ 500 PV คนที่ 2 เราจะได้ 25 % ของ 500 PV และตั้งแต่คนที่ 3 เป็นต้นไปเราจะได้ 30 % ของ 500 PV
- รายได้จากการสร้างแฟรนไชส์ 1-5 %: เราจะได้รับ “รายได้จากการสร้างแฟรนไชส์ 1-5 %” ของยอดส่วนตัวของ DL ที่เรา sponsor ด้วยตัวเอง 3 % สำหรับ 100 PV แรก และ 5 % สำหรับ 100 PV ต่อมา โดยคำนวณ ลึกสูงสุด 12 ชั้น ตามตำแหน่ง ทางธุรกิจ
- รายได้จากการขึ้นตำแหน่ง: ตั้งแต่ $ 10,000-100,000
- รายได้จากการลงทุนเปิดศูนย์จำหน่ายประจำจังหวัด 5 %: ถ้าเราเปิดศูนย์จำหน่ายประจำจังหวัดเราจะได้รับ “รายได้จากการลงทุนเปิดศูนย์จำหน่ายประจำจังหวัด 5 %” โดยคำนวณ 5 % จากยอดขายทั้งจังหวัดที่มาจากศูนย์ที่เราเปิด (จังหวัดละ 1 ศูนย์)
- โบนัสพิเศษ: $ 250-1,000 ต่อเดือน ตามตำแหน่ง โดยจะเก็บไว้ใช้ เป็นค่าสัมมนา ต่างประเทศของยูนิซิตี้ หรือถ้าเราไม่ไป ก็สามารถเบิกมาใช้ได้
สินค้าเด่นของ Unicity Thailand
ยูนิซิตี้มีสินค้าอยู่เพียง กลุ่มเดียว นั่นคือ อาหารเสริม โดยมีสินค้า ทั้งหมด ดังนี้
คลอโรฟิลล์ ผง (Chlorophyll Powder), เครื่องดื่ม น้ำว่านหางจระเข้ ผสมน้ำผลไม้รวม ชนิดเข้มข้น (Reviv), ผลิตภัณฑ์ เสริมอาหาร สารสกัดจาก ผงว่านหางจระเข้ และผงรำข้าว (Bios Life Mannos), เครื่องดื่ม ผงใบหม่อน ผสมลูกยอ และว่านหางจระเข้ (Hawaiian Noni) และ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไบออส ไลฟ์ (Bios Life)
จุดเด่นของ ยูนิซิตี้
[leadplayer_vid id=”50881B6C05DC5″]
- บริษัท ทำธุรกิจในไทยมา 10 ปีแล้ว คงไม่เลิกกิจการ วันนี้ หรือพรุ่งนี้
- สินค้า มีคุณภาพสูง ง่ายแก่การทำตลาด
- เป็นแผนธุรกิจ แบบ Unilevel ที่มีการรักษา ยอดส่วนตัว
- ลดปัญหา เรื่องมีคนเยอะ แต่ไม่มียอด เพราะมีการรักษายอดส่วนตัว 100 PV ต่อเดือน
- สมาชิก มีความสะดวกสบาย เพราะสามารถ สั่งซื้อแบบ Auto Ship ให้ส่งสินค้า ให้สมาชิก อัตโนมัติ ได้ทุกเดือน
ยูนิซิตี้ – สรุป
Unicity Thailand ผ่านหลักการเลือก Partner เบื้องต้นมี 3 ข้อ นั่นคือ
หลักการข้อแรก นั่นคือ ตัวบริษัท ยูนิซิตี้ทำธุรกิจในประเทศไทยมา 10 ปี จึงมั่นใจได้ในเรื่อง ความมั่นคง และไม่ผิดกฎหมาย
ส่วนหลักการข้อที่สอง นั่นคือ แผนการตลาด ก็มีจุดเด่น เรื่องแผนธุรกิจ แบบ Unilevel ที่ไม่ต้อง มีการรักษายอดส่วนตัว
และหลักการข้อสุดท้าย นั่นคือ สินค้า แม้จะมีคุณภาพสูง แต่มีแค่ กลุ่มอาหารเสริม อย่างเดียว บางครั้งอาจจะยาก แก่การขยายเครือข่าย หรือเปิดใจ ผู้ที่ไม่เคย ใช้อาหารเสริม มาก่อน